Published Apr 23, 2025 ⦁ 4 min read

ค้นหาเครื่องมือการตลาดอัตโนมัติราคาประหยัดสำหรับ SME ที่เหมาะกับธุรกิจไทย พร้อมฟีเจอร์สำคัญและราคาเริ่มต้นที่เข้าถึงได้

10 เครื่องมือการตลาดอัตโนมัติราคาประหยัดสำหรับ SME

10 เครื่องมือการตลาดอัตโนมัติราคาประหยัดสำหรับ SME

กำลังมองหาเครื่องมือการตลาดอัตโนมัติที่ใช้งบน้อยแต่ได้ผลจริงใช่ไหม? นี่คือ 10 ตัวเลือกที่เหมาะสำหรับ SME ไทย พร้อมฟีเจอร์สำคัญและราคาเริ่มต้นที่เข้าถึงง่าย:

  1. HubSpot Marketing Hub: เริ่มต้นฟรี เหมาะสำหรับการตลาดพื้นฐาน
  2. Mailchimp: ใช้งานง่าย ครอบคลุมอีเมลมาร์เก็ตติ้งและโฆษณา
  3. ActiveCampaign: รวม CRM และการตลาดในที่เดียว เริ่มต้น 299 บาท/เดือน
  4. Zoho CRM: จัดการลูกค้าและแคมเปญครบวงจร เริ่มต้น 800 บาท/เดือน
  5. Sendinblue: อีเมล, SMS, และแชทในแพลตฟอร์มเดียว มีแผนฟรี
  6. Hootsuite: จัดการโซเชียลมีเดียครบวงจร รองรับทีมทุกขนาด
  7. Buffer: เหมาะสำหรับทีมเล็ก ตั้งเวลาโพสต์ง่าย เริ่มต้นฟรี
  8. Pipedrive: CRM สำหรับการขาย เริ่มต้น 750 บาท/เดือน
  9. ClickUp: จัดการงานในทีม พร้อมระบบอัตโนมัติ เริ่มต้นฟรี
  10. Zapier: เชื่อมต่อแอปต่าง ๆ แบบอัตโนมัติ เริ่มต้นฟรี (100 งาน/เดือน)

การเลือกเครื่องมือที่เหมาะสม:

  • รองรับภาษาไทย
  • เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มยอดนิยมในไทย (LINE OA, Facebook Ads)
  • ปรับขยายฟีเจอร์ตามการเติบโตของธุรกิจ

เปรียบเทียบราคาและฟีเจอร์ ด้านล่างเพื่อช่วยคุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น!

เครื่องมือ ฟีเจอร์เด่น ราคาเริ่มต้น รองรับภาษาไทย
HubSpot ฟรี, ฟีเจอร์พื้นฐาน ฟรี
Mailchimp อีเมล, วิเคราะห์แคมเปญ ฟรี
ActiveCampaign CRM, การตลาดครบวงจร ฿299/เดือน
Zoho CRM จัดการลูกค้า, วิเคราะห์ผล ฿800/เดือน
Sendinblue อีเมล, SMS, แชท ฟรี
Hootsuite โซเชียลมีเดียครบวงจร ฿300/เดือน
Buffer ตั้งเวลาโพสต์, ใช้งานง่าย ฟรี
Pipedrive CRM สำหรับการขาย ฿750/เดือน
ClickUp จัดการงาน, ระบบอัตโนมัติ ฟรี
Zapier เชื่อมต่อแอปกว่า 1,000 รายการ ฟรี (100 งาน)

เริ่มต้นใช้งานวันนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตลาดและผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ของธุรกิจคุณ!

รีวิว PAM: Marketing Automation Platform ที่เหมาะกับธุรกิจไทย

วิธีเลือกเครื่องมือการตลาดอัตโนมัติ

ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกเครื่องมือการตลาดอัตโนมัติ คุณควรคำนึงถึง 3 ปัจจัยสำคัญเพื่อให้การลงทุนคุ้มค่า:

  • รองรับการใช้งานภาษาไทย รวมถึงการเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มยอดนิยมในประเทศไทย
  • บริการหลังการขายในภาษาไทย ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือในช่วงเวลาทำการ
  • สามารถปรับขยายได้ตามการเติบโตของธุรกิจ ตั้งแต่ฟังก์ชันพื้นฐานไปจนถึงฟังก์ชันขั้นสูง

เมื่อเข้าใจปัจจัยเหล่านี้แล้ว มาดูกันต่อว่าเครื่องมืออัตโนมัติราคาประหยัดสำหรับ SME ที่น่าสนใจมีอะไรบ้าง!

1. HubSpot Marketing Hub

HubSpot Marketing Hub

HubSpot Marketing Hub เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับ SME โดยเริ่มต้นใช้งานได้ฟรีพร้อมฟีเจอร์พื้นฐาน และสามารถเลือกอัปเกรดเป็นแผนชำระเงินเมื่อธุรกิจขยายตัว หากสนใจแพลตฟอร์มอื่น ลองพิจารณา Mailchimp ต่อไป

2. Mailchimp

Mailchimp

Mailchimp เป็นแพลตฟอร์มการตลาดผ่านอีเมลที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและฟีเจอร์ที่หลากหลาย เหมาะสำหรับธุรกิจทุกขนาด ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กหรือทีมการตลาดขนาดใหญ่ Mailchimp มีเครื่องมือที่ช่วยให้คุณสร้างแคมเปญที่มีประสิทธิภาพได้อย่างง่ายดาย

แพลตฟอร์มนี้มาพร้อมกับเทมเพลตอีเมลที่ปรับแต่งได้ ระบบจัดการรายชื่อผู้ติดต่อ และการวิเคราะห์ข้อมูลที่ช่วยให้คุณติดตามผลลัพธ์ของแคมเปญได้แบบเรียลไทม์ คุณยังสามารถตั้งค่าอีเมลอัตโนมัติเพื่อส่งข้อความในช่วงเวลาที่เหมาะสม เพิ่มโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับลูกค้า

Mailchimp ยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้คุณรวมการตลาดผ่านช่องทางอื่น เช่น โฆษณา Facebook หรือ Google Ads เพื่อเสริมสร้างกลยุทธ์การตลาดของคุณในภาพรวม หากคุณกำลังมองหาโซลูชันที่ครอบคลุมและใช้งานง่าย Mailchimp ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากทีเดียว

3. ActiveCampaign

ActiveCampaign

ActiveCampaign เป็นแพลตฟอร์มที่รวมการตลาดอัตโนมัติและ CRM ไว้ในที่เดียว ช่วยจัดการทั้งการส่งอีเมล การจัดการลูกค้า และการตั้งค่าลำดับการส่งข้อความอัตโนมัติ ฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น การแบ่งกลุ่มลูกค้าและระบบให้คะแนนลูกค้า (lead scoring) ช่วยให้การสื่อสารกับลูกค้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น เหมาะสำหรับธุรกิจ SME ที่ต้องการเครื่องมือที่ครอบคลุมตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงการขยายทีม

แผน Lite เริ่มต้นเพียง 299 บาท/เดือน (สำหรับการชำระรายปี) มาพร้อมอีเมลไม่จำกัดและฟีเจอร์พื้นฐานด้านการตลาดอัตโนมัติและ CRM แพลตฟอร์มรองรับการใช้งานภาษาไทยเต็มรูปแบบ และสามารถเชื่อมต่อกับ Facebook และ LINE OA เพื่อการทำการตลาดแบบครบวงจรได้อย่างง่ายดาย

4. Zoho CRM

Zoho CRM

Zoho CRM เป็นระบบจัดการลูกค้าครบวงจรที่รองรับการใช้งานภาษาไทยอย่างเต็มที่ ช่วยให้คุณสามารถตั้งค่าแคมเปญอีเมล ปรับการทำงานอัตโนมัติตามพฤติกรรมลูกค้า และวิเคราะห์โอกาสในการขายได้ทั้งหมดในที่เดียว

แพ็กเกจเริ่มต้นเพียง 800 บาทต่อเดือน มาพร้อมฟีเจอร์สำคัญ เช่น ระบบอัตโนมัติพื้นฐาน การจัดเก็บข้อมูลลูกค้าแบบไม่จำกัด และแดชบอร์ดรายงานผลแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับ Facebook Ads และ LINE OA เพื่อขยายความสามารถของระบบให้เหมาะกับการเติบโตของธุรกิจคุณได้อีกด้วย

5. Sendinblue

Sendinblue

Sendinblue เป็นแพลตฟอร์มที่รวมเครื่องมือการตลาดอัตโนมัติไว้ในที่เดียว ทั้งอีเมลมาร์เก็ตติ้ง, SMS, และระบบแชท ใช้งานง่ายและเหมาะสำหรับธุรกิจ SME ที่ต้องการเริ่มต้นทำการตลาดผ่านอีเมลแบบมืออาชีพ

แผนฟรี ของ Sendinblue มาพร้อมฟีเจอร์สำคัญ เช่น เทมเพลตอีเมลสำเร็จรูป, การแบ่งกลุ่มผู้รับ, และแดชบอร์ดวิเคราะห์ผล คุณสามารถตั้งค่าการส่งอีเมลอัตโนมัติตามพฤติกรรมลูกค้า, สร้างแคมเปญอีเมลและ SMS พร้อมติดตามผลแบบเรียลไทม์ และจัดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างละเอียด เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการเริ่มต้นหรือขยายงบการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ

ฟีเจอร์เด่นในการทำ Marketing Automation ได้แก่:

  • ตั้งค่าการส่งอีเมลอัตโนมัติตามพฤติกรรมหรือเหตุการณ์
  • สร้างแคมเปญการตลาดที่ผสานทั้งอีเมลและ SMS
  • ติดตามและวิเคราะห์ผลการส่งอีเมลได้แบบเรียลไทม์
  • จัดการรายชื่อและแบ่งกลุ่มเป้าหมายได้อย่างละเอียด

อีกหนึ่งเครื่องมือที่น่าสนใจคือ ตัวสร้างหน้า Landing Page ที่ช่วยให้คุณสร้างหน้าแลนดิ้งเพจสำหรับเก็บข้อมูลลูกค้าได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ด พร้อมเทมเพลตที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเพิ่มอัตราการแปลงอย่างมีประสิทธิภาพ

6. Hootsuite

Hootsuite

หากคุณกำลังมองหาเครื่องมือจัดการโซเชียลมีเดียที่ครอบคลุมทุกด้าน Hootsuite เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับ SME ที่ต้องการวางแผน จัดการ และติดตามเนื้อหาได้อย่างมีประสิทธิภาพในที่เดียว รองรับภาษาไทยและปรับขนาดแพ็กเกจได้ตามจำนวนสมาชิกในทีม

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ:

  • ตั้งเวลาและจัดการโพสต์ล่วงหน้าในหลายแพลตฟอร์มได้ง่าย ๆ
  • รวมคอมเมนต์และข้อความจากทุกช่องทางไว้ในที่เดียว พร้อมระบบตอบกลับอัตโนมัติ
  • แจ้งเตือนเมื่อมีการพูดถึงแบรนด์ของคุณ
  • สร้างรายงานและดูผลวิเคราะห์แบบเรียลไทม์
  • ระบบอนุมัติเนื้อหาและการทำงานร่วมกันในทีม

นอกจากนี้ Hootsuite ยังมีแดชบอร์ดวิเคราะห์ที่ช่วยให้คุณเข้าใจพฤติกรรมของผู้ติดตาม และค้นหาช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการโพสต์เนื้อหาได้อย่างแม่นยำ

sbb-itb-4ffe5b5

7. Buffer

ถ้า Hootsuite เหมาะสำหรับทีมขนาดใหญ่ Buffer ก็ตอบโจทย์สำหรับ SME และทีมขนาดเล็กได้อย่างลงตัว

Buffer ช่วยให้คุณตั้งเวลาโพสต์ล่วงหน้าบน Facebook, Instagram, Twitter และ LinkedIn ได้จากแดชบอร์ดเดียว ใช้งานง่ายและรองรับภาษาไทย ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ ได้แก่ การปรับมุมมองปฏิทินเพื่อวางแผนคอนเทนต์ การเชื่อมต่อกับบริการย่อลิงก์ และการติดตามผลตอบรับเบื้องต้น ทำให้ SME สามารถจัดการคอนเทนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องใช้ทรัพยากรทีมมากนัก

แผนการใช้งาน

  • Free: ตั้งเวลาโพสต์ได้สูงสุด 10 ครั้งต่อช่องทาง และใช้งานได้กับ 3 แพลตฟอร์ม
  • Essentials: ราคา 300 บาท/เดือน เพิ่มช่องทางได้ไม่จำกัด พร้อมเข้าถึงรายงานเชิงลึก เช่น เวลาที่ผู้ชมมีการตอบสนองมากที่สุด และจัดการทีมได้สูงสุด 5 คน

8. Pipedrive

Pipedrive

Pipedrive เป็นเครื่องมือ CRM ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยจัดการกระบวนการขายตั้งแต่ต้นจนปิดดีล เหมาะสำหรับ SME ที่ต้องการระบบใช้งานง่าย ด้วยอินเทอร์เฟซแบบลาก-วาง พร้อมฟีเจอร์อีเมลอัตโนมัติและแดชบอร์ดสำหรับวิเคราะห์ข้อมูล ราคาเริ่มต้นเพียง 750 บาทต่อผู้ใช้ต่อเดือน (เมื่อชำระแบบรายปี) รองรับภาษาไทย และสามารถเชื่อมต่อกับ LINE OA และ Facebook Ads ได้

Pipedrive ช่วยทีมขนาดเล็กติดตามโอกาสขายและลดงานที่ซ้ำซ้อน เพื่อเพิ่มโอกาสปิดการขาย ด้วยฟีเจอร์เด่น เช่น:

  • ระบบจัดการ Pipeline ที่รองรับดีลจำนวนมาก พร้อมการใช้งานแบบลาก-วาง
  • อีเมลอัตโนมัติสำหรับติดตามและแจ้งเตือนดีล
  • แดชบอร์ดวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์
  • ราคาเริ่มต้นที่คุ้มค่า เพียง 750 บาทต่อเดือน (เมื่อชำระรายปี)

9. ClickUp

ClickUp

เมื่อจัดการโซเชียลมีเดียและ CRM เรียบร้อยแล้ว เครื่องมือที่ช่วยจัดการงานภายในทีมก็เป็นสิ่งที่ SME ไม่ควรมองข้าม ClickUp เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยจัดการโครงการและงานต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมระบบอัตโนมัติที่ช่วยประหยัดเวลาและลดข้อผิดพลาดในการทำงาน

ClickUp มาพร้อมฟีเจอร์ที่โดดเด่นสำหรับทีมการตลาด เช่น:

  • Automations: ตั้งค่ากระบวนการทำงานอัตโนมัติตามเงื่อนไข เช่น อีเมลหรือสถานะของงาน
  • Templates สำเร็จรูป: ใช้งานได้ทันทีสำหรับการวางแผนการตลาด
  • การเชื่อมต่อหลากหลาย: รองรับการเชื่อมต่อกับ Slack, Google Workspace และ Zapier

แผนการใช้งานฟรีเปิดให้ใช้งานได้ไม่จำกัดจำนวนผู้ใช้ ส่วนแผน Plus มีราคาเริ่มต้นที่ 99 บาทต่อผู้ใช้ต่อเดือน (เมื่อชำระรายปี) ซึ่งเหมาะสำหรับ SME ที่ต้องการระบบบริหารงานแบบครบวงจรและใช้งานง่ายในราคาที่เข้าถึงได้.

10. Zapier

Zapier

สำหรับ SME ที่ต้องการเชื่อมโยงการทำงานระหว่างแอปต่างๆ ให้เป็นอัตโนมัติ Zapier คือเครื่องมือที่ตอบโจทย์โดยไม่ต้องเขียนโค้ดเอง ช่วยให้คุณสร้างกระบวนการอัตโนมัติที่ซับซ้อนได้แบบง่ายๆ เริ่มใช้งานฟรีได้ถึง 100 งานต่อเดือน หรือเลือกแผน Starter ราคา 690 บาท/เดือน (20 Zaps, 750 งาน/เดือน)

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจสำหรับการตลาด

  • รองรับการเชื่อมต่อกับแอปกว่า 1,000 รายการ เช่น HubSpot, Mailchimp, Google Sheets และ ClickUp
  • ออกแบบ Multi-step workflows พร้อมตั้งเงื่อนไขตามเหตุการณ์
  • เชื่อมโยงและทำงานอัตโนมัติระหว่างแอปที่คุณใช้ประจำ

ตัวอย่างการใช้งานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

  • ย้ายข้อมูลจาก Facebook Lead Ads ไปยัง Google Sheets
  • ส่งการแจ้งเตือนผ่าน LINE เมื่อมีคำสั่งซื้อใหม่
  • สร้างงานใน ClickUp โดยอัตโนมัติ
  • อัปเดตสถานะการชำระเงินในระบบ CRM

ด้วย Zapier ทีมการตลาดสามารถลดงานซ้ำซ้อนและมุ่งเน้นไปที่งานที่สร้างผลลัพธ์ได้มากขึ้น!

การเปรียบเทียบราคาและฟีเจอร์ของเครื่องมือ

ด้านล่างนี้คือสรุปราคาและฟีเจอร์หลักของเครื่องมือแต่ละตัว แนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลที่อัปเดตล่าสุดจากเว็บไซต์ของผู้ให้บริการก่อนตัดสินใจใช้งาน

เครื่องมือการตลาดและผลลัพธ์ทางธุรกิจ

เมื่อพิจารณาทั้งราคาและฟีเจอร์แล้ว สิ่งสำคัญที่ต้องมองต่อคือ ผลลัพธ์ทางธุรกิจ ที่ธุรกิจ SME จะได้รับจากการใช้เครื่องมือการตลาดอัตโนมัติ:

ธุรกิจ SME สามารถเพิ่ม ROI ได้ใน 3 ด้านหลัก ดังนี้:

การดึงดูดลูกค้าใหม่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

  • ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อช่วยค้นหาลูกค้าใหม่ได้เร็วขึ้น พร้อมสร้างลีดแบบอัตโนมัติ
  • ระบุเป้าหมายที่เหมาะสมที่สุดด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก

การดูแลและรักษาลูกค้าเดิม

  • ส่งข้อเสนอและเนื้อหาที่ตรงใจลูกค้าผ่านระบบการสื่อสารอัตโนมัติ
  • สร้างความสัมพันธ์ระยะยาวด้วยการปรับการสื่อสารให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าแต่ละราย

การวัดผลและปรับปรุงกลยุทธ์

  • ติดตาม ROI และปรับแผนการตลาดได้ทันทีด้วยข้อมูลเรียลไทม์
  • ปรับแต่งแคมเปญตามผลลัพธ์ที่ได้จากการวิเคราะห์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น

การนำเครื่องมือการตลาดอัตโนมัติมาใช้ในธุรกิจ SME อย่างเหมาะสม จะช่วยให้ธุรกิจสามารถแข่งขันได้ดียิ่งขึ้น โดยมุ่งเน้นการเพิ่มรายได้และ ROI โดยไม่ต้องใช้งบประมาณหรือทรัพยากรมากเกินความจำเป็น

บริการจาก VenueE Performance Marketing

สำหรับ SME ที่ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วและแม่นยำขึ้น การเลือกใช้บริการจาก VenueE Performance Marketing อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ VenueE Performance Marketing เป็นเอเจนซี่ดิจิทัลชั้นนำในไทย และยังเป็นหนึ่งใน 30 เอเจนซี่ที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจาก Meta Badged Partner

จุดเด่นของบริการ

  • เน้นผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) และยอดขาย พร้อมรายงานผลแบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง
  • สามารถเข้าถึงข้อมูลแคมเปญและรายงานได้ทุกเมื่อ
  • มีการประชุมสรุปผลและปรับกลยุทธ์ทุก 2 สัปดาห์

ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ

VenueE Performance Marketing ให้บริการกับแบรนด์กว่า 100 ราย ด้วยงบโฆษณารวมกว่า 150 ล้านบาทต่อปี ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถในการบริหารแคมเปญการตลาดดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ

ความยืดหยุ่นในการให้บริการ

  • ไม่มีข้อผูกมัดระยะยาว ด้วยสัญญารายเดือน
  • ทำงานร่วมกันในรูปแบบพาร์ทเนอร์ ช่วยวางกลยุทธ์ที่เหมาะสม
  • ทีมงานครบวงจร ครอบคลุมด้านการตลาด การออกแบบ และการพัฒนา

บริการนี้เหมาะสำหรับ SME ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เครื่องมือการตลาดดิจิทัล พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมดูแลและให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด

สรุป

สำหรับ SME ที่ต้องการเริ่มใช้เครื่องมือการตลาดอัตโนมัติให้ได้ผลดี ควรเริ่มต้นด้วย 3 ขั้นตอนหลักดังนี้:

3 ขั้นตอนเริ่มต้นใช้งานเครื่องมืออัตโนมัติ

  • ตั้งเป้าหมายและงบประมาณให้ชัดเจน: ระบุเป้าหมายที่ต้องการ เช่น เพิ่มยอดขายหรือสร้างการรับรู้ พร้อมกำหนดงบประมาณที่เหมาะสม
  • วิเคราะห์ข้อมูลที่มีอยู่: ใช้ข้อมูลปัจจุบัน เช่น พฤติกรรมลูกค้า หรือยอดขาย เพื่อวางแผนกลยุทธ์ที่เหมาะสม
  • ติดตามผลและปรับปรุง: ตรวจสอบผลลัพธ์ของแคมเปญอย่างต่อเนื่อง และปรับเปลี่ยนตามความจำเป็นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

การปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมอย่างต่อเนื่องจะช่วยเพิ่ม ROI และสนับสนุนการเติบโตในระยะยาว

venuee performance marketing agency team
ต้องการเพิ่มยอดขาย?
ให้เราช่วยประเมินและวางแผนการตลาด เพื่อปรับ ROI ให้เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ