5 กลยุทธ์เพิ่ม ROI ช่วงเทศกาลสงกรานต์

เทศกาลสงกรานต์เป็นโอกาสสำคัญที่ธุรกิจสามารถเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงและการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลนี้ บทความนี้สรุป 5 กลยุทธ์สำคัญ ที่ธุรกิจสามารถนำไปปรับใช้ได้ทันที:

• ใช้โปรโมชั่นที่เชื่อมโยงกับประเพณีสงกรานต์: เช่น แคมเปญที่สะท้อนถึงการเริ่มต้นใหม่หรือสุขภาพ
• มุ่งเน้นช่องทางการตลาดบนมือถือ: ใช้แพลตฟอร์มอย่าง TikTok และ Google Ads เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
• ใช้แคมเปญที่เน้นพื้นที่เป้าหมาย: เจาะจงกลุ่มลูกค้าในแต่ละพื้นที่ เช่น เชียงใหม่ กรุงเทพฯ หรือภูเก็ต
• วิเคราะห์ผลลัพธ์ด้วยโมเดลข้อมูล: ใช้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อปรับปรุงแคมเปญ เช่น การติดตาม SEO หรือการวัดผล Influencer
• ร่วมมือกับเอเจนซี่ Performance Marketing: เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญและการจัดการงบประมาณ

ตัวอย่างจริง: ธุรกิจสกินแคร์ในเชียงใหม่ใช้ TikTok และ Google Ads ส่งผลให้ยอดขายออนไลน์เพิ่มขึ้นกว่า 1,200 รายการใน 5 วัน พร้อมยอดวิววิดีโอ 350,000 ครั้ง

เคล็ดลับ: เริ่มต้นด้วยการใช้ข้อมูลผู้บริโภค เช่น พฤติกรรมการใช้จ่ายและการค้นหาสินค้าในช่วงเทศกาล เพื่อออกแบบแคมเปญที่ตรงจุดและสร้างผลลัพธ์ที่วัดผลได้จริง

เคมเปญ 'การตลาดช่วงสงกรานต์' แบรนด์ไหนปัง แบรนด์ไหนเก็บ Data ได้ดี มาดูกัน I การตลาดสัปดาห์ละตอน

1. ใช้โปรโมชั่นที่เชื่อมโยงกับประเพณีสงกรานต์

การสร้างโปรโมชั่นที่สะท้อนถึงประเพณีสงกรานต์ เช่น แนวคิดเรื่องการชำระล้างและการเริ่มต้นใหม่ สามารถช่วยเพิ่ม ROI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการเชื่อมโยงกับคุณค่าที่ผู้บริโภคเข้าใจและรู้สึกใกล้ชิด

การเชื่อมโยงกับประเพณีสงกรานต์

สงกรานต์ไม่ได้เป็นเพียงเทศกาลเล่นน้ำ แต่ยังมีความสำคัญในเชิงจิตวิญญาณและวัฒนธรรม ธุรกิจที่เข้าใจจุดนี้สามารถสร้างแคมเปญที่เข้าถึงใจผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง

ตัวอย่างที่น่าสนใจ:

• Dyson เปิดตัว "Supersonic" ที่สยามสแควร์ โดยมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าที่ต้องการดูแลทรงผมหลังจากเล่นน้ำสงกรานต์ ผลตอบรับดีเยี่ยมทั้งในงานและบนโซเชียลมีเดีย
• GoPro ร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้เหล่าอินฟลูเอนเซอร์สร้างวิดีโอแชร์ประสบการณ์ในเทศกาลสงกรานต์ที่เชียงใหม่ แคมเปญนี้ไม่เพียงช่วยโชว์ความสามารถกันน้ำของกล้อง แต่ยังโปรโมตเทศกาลให้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ

การผสมผสานคุณค่าทางวัฒนธรรมเข้ากับการตลาดแบบนี้ สามารถแปลงเป็นผลตอบแทนที่ชัดเจนในแง่ของ ROI ได้อย่างดีเยี่ยม

ผลกระทบต่อการเติบโตของ ROI

ตัวอย่างเหล่านี้พิสูจน์ให้เห็นว่า การเชื่อมโยงประเพณีเข้ากับโปรโมชั่นสามารถสร้างผลลัพธ์ที่จับต้องได้:

• ธุรกิจ SME ที่เชียงใหม่ซึ่งผลิตสกินแคร์จากสมุนไพร ได้เปิดตัวแคมเปญ TikTok โดยนำเสนอเบื้องหลังกระบวนการผลิตสเปรย์อโลเวร่าเพื่อใช้หลังเล่นน้ำสงกรานต์ ผลลัพธ์คือ วิดีโอหนึ่งมียอดวิวถึง 350,000 ครั้งภายใน 5 วัน พร้อมยอดสั่งซื้อออนไลน์กว่า 1,200 รายการ
• สถิติจาก TikTok ชี้ว่า 41% ของผู้ใช้งานคาดว่าจะค้นพบสินค้าใหม่ในช่วงสงกรานต์ และ 72% ของผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าผ่าน TikTok Shop

การนำไปใช้สำหรับธุรกิจ SME

ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ธุรกิจ SME เห็นแนวทางในการสร้างโปรโมชั่นที่ตอบโจทย์ช่วงสงกรานต์ได้อย่างชัดเจน:

• การสำรวจล่าสุดพบว่า 27% ของคนไทยวางแผนพักผ่อนอยู่บ้านในช่วงสงกรานต์ ขณะที่ 67% ตั้งใจใช้เวลากับครอบครัว และ 52% จะทำกิจกรรมที่บ้าน
• ธุรกิจสามารถใช้ข้อมูลนี้พัฒนาโปรโมชั่น เช่น แพ็กเกจสำหรับครอบครัว หรือสินค้าเพื่อใช้ในบ้าน เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนและเพิ่มยอดขายในช่วงเทศกาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. มุ่งเน้นช่องทางการตลาดบนมือถือ

หลังจากที่คุณได้ใช้โปรโมชั่นที่ตรงกับประเพณีแล้ว การเลือกใช้แพลตฟอร์มมือถือที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยถือเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญในการเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลที่พฤติกรรมผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด

สอดคล้องกับบรรยากาศสงกรานต์

ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พฤติกรรมการใช้มือถือของคนไทยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างน่าสนใจ โดย 83% ของผู้ใช้ TikTok ในไทย มักค้นหาเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับสงกรานต์และฤดูร้อน ขณะที่ 86% ของผู้ใช้ คาดว่าจะใช้เวลาใน TikTok มากกว่าปกติ และ 50% ของผู้ใช้ ได้แรงบันดาลใจจากเนื้อหาในแอปจนตัดสินใจซื้อสินค้าตามเทรนด์

การค้นพบสินค้าและบริการในช่วงสงกรานต์มักเริ่มต้นจากการเลื่อนดูเนื้อหาใน TikTok เพื่อหาไอเดีย จากนั้นผู้ใช้งานจะเปลี่ยนไปค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมใน Google เช่น การตรวจสอบสถานที่ ราคา รีวิว หรือการจองบริการ

"TikTok มุ่งมั่นที่จะเป็นแพลตฟอร์มที่สร้างแรงบันดาลใจและนำความสุขมาให้ ผู้เชี่ยวชาญแสดงให้เห็นว่าความบันเทิงสามารถเสริมสร้างและเปิดโอกาสทางการตลาดให้แบรนด์ในช่วงสงกรานต์และตลอดฤดูร้อนได้อย่างมากมาย แบรนด์สามารถเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน TikTok โดยใช้โซลูชันครบวงจรของเราในการสร้างเนื้อหาความบันเทิงที่น่าสนใจ ซึ่งช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้บริโภค ส่งเสริมยอดขาย และบรรลุเป้าหมายทางการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ"

• Cholticha Ngamkamollert, หัวหน้าฝ่ายพาร์ทเนอร์ไคลเอนต์ประเทศไทย TikTok

ผลกระทบต่อการเติบโตของ ROI

ข้อมูลสถิติเผยให้เห็นว่าแพลตฟอร์มมือถือมีบทบาทสำคัญต่อการเติบโตของตลาดในช่วงสงกรานต์ โดย 98% ของผู้ใช้งานในไทย พร้อมสำหรับการช้อปปิ้งออนไลน์ในช่วงสงกรานต์และฤดูร้อน

ตัวเลขจากสงกรานต์ปี 2023 ชี้ว่า การติดตั้งแอปเพิ่มขึ้น 21% ขณะที่การใช้งานแอปเพิ่มขึ้น 8% โดยเฉลี่ยเวลาใช้งานต่อครั้งเพิ่มขึ้นจาก 22.9 นาทีเป็น 23.99 นาที อุปกรณ์มือถือยังสร้างยอดขายออนไลน์มากกว่า 80% และ 23% ของธุรกรรม ดำเนินการผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล

การนำไปใช้สำหรับธุรกิจ SME

สำหรับธุรกิจ SME การใช้ข้อมูลเหล่านี้สามารถช่วยสร้างแคมเปญการตลาดที่เน้นบนมือถือได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น:

• สร้างเนื้อหาจากผู้ใช้งาน (User-Generated Content): ธุรกิจสามารถผลิตวิดีโอ TikTok ที่เน้นความเป็นธรรมชาติ เช่น การแพ็กสินค้า การใช้งานผลิตภัณฑ์ หรือเบื้องหลังการผลิต โดยเพิ่มความน่าสนใจด้วยเสียงและคำบรรยายที่เข้ากับบรรยากาศสงกรานต์
• เพิ่มประสิทธิภาพ Google Ads: เปิดโฆษณาที่เน้นคำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์และคู่แข่ง พร้อมกำหนดเป้าหมายตามพื้นที่ นอกจากนี้ การอัปเดตข้อมูลใน Google My Business หลังเทศกาลยังช่วยโปรโมตข้อเสนอพิเศษ "หลังสงกรานต์" และกระตุ้นให้ลูกค้าเขียนรีวิวเพื่อเพิ่มอันดับ SEO ในพื้นที่

ข้อมูลเหล่านี้ยังสามารถนำไปใช้สร้างวิดีโอโฆษณาสั้น ๆ ไม่เกิน 15 วินาที ซึ่งเหมาะสำหรับการดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคในช่วงเวลาสำคัญ การปรับกลยุทธ์เหล่านี้ให้เหมาะสมกับพฤติกรรมผู้บริโภคในช่วงเทศกาลจะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายและขยายฐานลูกค้าได้อย่างน่าประทับใจ!

3. ใช้แคมเปญที่เน้นพื้นที่เป้าหมาย

การทำการตลาดที่เจาะจงพื้นที่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นวิธีที่ช่วยเพิ่ม ROI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการปรับแคมเปญให้เข้ากับเอกลักษณ์ของแต่ละพื้นที่จะช่วยสร้างความเชื่อมโยงกับผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น

การเชื่อมโยงกับประเพณีสงกรานต์

เพื่อให้แคมเปญได้ผลลัพธ์ที่ดี การเข้าใจลักษณะเฉพาะของแต่ละพื้นที่มีความสำคัญมาก เพราะแต่ละแห่งในประเทศไทยมีวิธีฉลองสงกรานต์ที่แตกต่างกัน เช่น บรรยากาศสนุกสนานที่สยามสแควร์และถนนข้าวสาร ความศักดิ์สิทธิ์ที่เชียงใหม่ หรือการผสมผสานวัฒนธรรมไทยและนานาชาติในภูเก็ต พัทยา และขอนแก่น การออกแบบแคมเปญที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมท้องถิ่นจะช่วยสร้างความประทับใจและเข้าถึงผู้บริโภคในพื้นที่นั้น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

"คนไทยมักจะยินดีที่จะสอนนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับประเพณีวัฒนธรรมของเราและจะดีใจที่จะตอบคำถามใดๆ ที่ผู้เยือนอาจมีเกี่ยวกับเทศกาล"

• จุไรรัตน์ มงคลวงศิริ รองประธานฝ่ายขายของเซ็นทารา โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ทส์ ในกรุงเทพฯ

การเข้าใจความแตกต่างเหล่านี้ยังช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับแคมเปญได้อย่างเหมาะสม เช่น การเน้นเรื่องความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในเชียงใหม่ หรือการให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายและความรวดเร็วในกรุงเทพฯ

ผลลัพธ์ที่จับต้องได้

ข้อมูลจากปี 2023 ชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ของการใช้ Google Business Profile อย่างต่อเนื่อง โดยธุรกิจไทยที่ใช้งานโปรไฟล์ได้รับคลิกเพิ่มขึ้น 35% และคำขอเส้นทางเพิ่มขึ้น 70% เมื่อเทียบกับรายการพื้นฐาน นอกจากนี้ แคมเปญที่เชื่อมโยงกับเทศกาลสงกรานต์ยังช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมได้มากถึง 40%[27]

อีกหนึ่งโอกาสที่น่าสนใจคือการใช้งานแอปมือถือในช่วงสงกรานต์ 2023 ซึ่งพบว่าแอป Fintech มีการใช้งานเพิ่มขึ้น 33% แอปอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้น 27% และแอปท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยรายปี ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าการเจาะจงพื้นที่เป้าหมายสามารถสร้างผลลัพธ์ที่ชัดเจนให้กับธุรกิจได้

การนำไปปรับใช้สำหรับธุรกิจ SME

ธุรกิจ SME สามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อสร้างแคมเปญที่มีประสิทธิภาพได้หลายวิธี เช่น การใช้ Location-based targeting บนแพลตฟอร์มอย่าง Facebook ที่สามารถกำหนดเป้าหมายได้ถึงระดับจังหวัด เมือง หรือแม้กระทั่งในรัศมี 1 กิโลเมตร หรือใช้คำค้นหาใน Google Ads อย่าง "ร้านใกล้ฉัน" และ "ลดราคาสงกรานต์" เพื่อดึงดูดลูกค้าที่กำลังมองหาสินค้าหรือบริการในช่วงเทศกาล

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือธุรกิจผลิตภัณฑ์สมุนไพรในเชียงใหม่ที่ใช้ TikTok ควบคู่กับการปรับปรุง Google Ads และ Google My Business ซึ่งช่วยให้พวกเขาเปลี่ยนการเข้าชมออนไลน์เป็นคำสั่งซื้อได้มากกว่า 1,200 รายการ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์

4. วิเคราะห์ผลลัพธ์ด้วยโมเดลข้อมูล

การเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ในช่วงสงกรานต์นั้น การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกและการเลือกใช้โมเดลที่เหมาะสมถือเป็นหัวใจสำคัญ โดยเฉพาะการใช้ Attribution Models ที่ช่วยติดตามเส้นทางการตัดสินใจซื้อของลูกค้า ตั้งแต่เห็นโฆษณาครั้งแรกจนถึงการซื้อจริง

พฤติกรรมผู้บริโภคในช่วงสงกรานต์

ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคไทยเปลี่ยนแปลงไปจากช่วงเวลาปกติ โดยเฉลี่ยแล้ว ผู้บริโภคต้องสัมผัสข้อมูลประมาณ 8 ครั้งก่อนตัดสินใจซื้อ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนที่เพิ่มขึ้นในกระบวนการตัดสินใจช่วงนี้ และทำให้การวิเคราะห์เชิงลึกมีความสำคัญมากขึ้น

สำหรับธุรกิจที่มีกระบวนการสั่งซื้อสั้น เช่น อาหารหรือเครื่องดื่ม การใช้โมเดล Single-touch attribution (เช่น Last-touch) อาจเพียงพอ แต่สำหรับธุรกิจที่มีกระบวนการตัดสินใจยาวนาน เช่น การท่องเที่ยวหรือสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า การใช้ Multi-touch models อย่าง W-shaped หรือ Time decay attribution จะเหมาะสมกว่า

ผลกระทบต่อ ROI

การเลือกใช้โมเดลวิเคราะห์ข้อมูลที่เหมาะสมช่วยให้ธุรกิจระบุได้ว่าช่องทางใดสร้างมูลค่าที่แท้จริงในช่วงสงกรานต์ นักการตลาดถึง 52% ใช้รายงาน Attribution เพื่อกำหนดช่องทางและข้อความหลัก ซึ่งช่วยให้สามารถจัดสรรงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวอย่างเช่น หากลูกค้าเริ่มต้นการค้นหาสินค้าจาก Facebook แต่ตัดสินใจซื้อผ่าน LINE ธุรกิจควรปรับงบประมาณให้ครอบคลุมทั้งสองช่องทาง การปรับงบประมาณตามข้อมูลเหล่านี้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของโปรโมชันและแคมเปญได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ ธุรกิจไทยยังพบว่าอัตราการเปิดข้อความใน LINE อยู่ที่ 60-70% ซึ่งสูงกว่า Email marketing ที่มีอัตราเพียง 15-20% ข้อมูลนี้สามารถช่วยธุรกิจ SME ในการปรับปรุงกลยุทธ์เพื่อเพิ่มโอกาสในการขาย

การนำไปใช้สำหรับธุรกิจ SME

ธุรกิจ SME สามารถเริ่มต้นวิเคราะห์ผลลัพธ์ในช่วงสงกรานต์ได้โดยโฟกัสที่ตัวชี้วัดพื้นฐาน ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก:

• การติดตาม SEO ท้องถิ่น
  ให้ความสำคัญกับอันดับการค้นหาในพื้นที่เป้าหมาย เช่น การดู การคลิก และการแปลงลูกค้าผ่าน Google Business Profile รวมถึงการปรากฏใน Local pack และการวิเคราะห์รีวิว ธุรกิจที่ดูแล Google Business Profile อย่างต่อเนื่องสามารถเพิ่มจำนวนคลิกได้ถึง 35% และคำขอเส้นทางเพิ่มขึ้น 70%
• การวัดผล Influencer Marketing
  ติดตามตัวชี้วัดอย่างการเข้าถึง การแปลงลูกค้าผ่านรหัสส่วนลด UTM parameters และการเติบโตของผู้ติดตาม โดย 78% ของผู้บริโภคไทยเคยตัดสินใจซื้อสินค้าหลังจากเห็น Influencer ที่พวกเขาเชื่อถือแนะนำ และการทำงานร่วมกับ Influencer ในระยะยาวสามารถสร้าง Engagement ได้มากกว่าการโปรโมตครั้งเดียวถึง 3-4 เท่า

sbb-itb-4ffe5b5

5. ร่วมมือกับเอเจนซี่ Performance Marketing อย่าง VenueE

การร่วมงานกับเอเจนซี่ Performance Marketing ที่เข้าใจถึงความสำคัญของเทศกาลสงกรานต์ จะช่วยให้คุณสร้างแคมเปญที่เข้าถึงใจผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง พร้อมผลลัพธ์ที่สามารถวัดผลได้จริง

เชื่อมโยงแคมเปญกับประเพณีสงกรานต์

สงกรานต์เป็นช่วงเวลาที่ผู้คนกลับบ้านไปพบครอบครัว พักผ่อน และใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง ข้อมูลชี้ให้เห็นว่า 67% ของผู้บริโภควางแผนใช้เวลากับครอบครัว และ 52% เลือกทำกิจกรรมที่บ้าน โดยงบประมาณส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 1,000-2,999 บาท การเข้าใจบริบทนี้ช่วยให้เอเจนซี่สามารถสร้างเนื้อหาที่เชื่อมโยงกับอารมณ์และความหมายของเทศกาลได้อย่างลึกซึ้ง ไม่ใช่แค่การโฆษณาทั่วไป

เพิ่ม ROI ด้วยกลยุทธ์ที่พิสูจน์แล้ว

เอเจนซี่ที่มีประสบการณ์สามารถช่วยเพิ่ม ROI ได้อย่างชัดเจนในช่วงสงกรานต์ ตัวอย่างเช่น ธุรกิจสกินแคร์สมุนไพรในเชียงใหม่ที่ร่วมมือกับเอเจนซี่เพื่อเปิดตัวแคมเปญบน TikTok โดยเน้นกระบวนการผลิตสเปรย์อโลเวร่าสำหรับสงกรานต์ ผลลัพธ์คือ ยอดรับชมกว่า 350,000 ครั้งใน 5 วัน และสร้างออร์เดอร์ออนไลน์มากกว่า 1,200 รายการ

"That TikTok (discovery) + Google (conversion) combo is pure gold." – MCIX Digital Marketing Agency

นอกจากนี้ เอเจนซี่ยังปรับปรุง Google Ads และ Google Business Profile เพื่อเพิ่มการคลิก 35% และการขอเส้นทาง 70% กลยุทธ์เหล่านี้ช่วยให้ธุรกิจ SME สามารถเปลี่ยนการค้นหาและแรงกระตุ้นบนแพลตฟอร์มต่างๆ ให้กลายเป็นยอดขายจริงได้

SME ก็สามารถใช้กลยุทธ์นี้ได้

สำหรับธุรกิจ SME การร่วมงานกับเอเจนซี่ที่มีประสบการณ์ช่วยให้เข้าถึงกลยุทธ์และเทคโนโลยีที่ซับซ้อนโดยไม่ต้องมีทรัพยากรจำนวนมาก เอเจนซี่อย่าง VenueE Performance Marketing ซึ่งเป็น Meta Badged Partner มีความเชี่ยวชาญในการจัดการงบโฆษณาและให้บริการกับแบรนด์หลากหลายรูปแบบ

VenueE ยังให้บริการแบบไร้สัญญาผูกมัด พร้อมรายงานผลที่โปร่งใส และการประชุมทุก 2 สัปดาห์เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์แบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ยังช่วย SME ใช้ประโยชน์จากพฤติกรรมผู้บริโภค เช่น การค้นหาข้อมูลบน TikTok และการตัดสินใจซื้อผ่าน Google Ads และ Google My Business ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลที่ว่า 93% ของผู้บริโภคไทยค้นคว้าข้อมูลออนไลน์ก่อนตัดสินใจซื้อ

การมีเอเจนซี่ที่เข้าใจทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคและความสำคัญของเทศกาลสงกรานต์ จะช่วยให้ธุรกิจของคุณปรับตัวและเติบโตได้อย่างมั่นคงในช่วงเวลาสำคัญนี้

สรุป

การนำกลยุทธ์ทั้ง 5 แบบมาประยุกต์ใช้ร่วมกันสามารถช่วยเพิ่ม ROI ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเมื่อเราตระหนักว่า รายได้ช่วงสงกรานต์ปี 2025 คาดว่าจะทะลุ 26.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จากปีก่อนหน้า ซึ่งแสดงให้เห็นถึงโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจอย่างยิ่ง

การใช้วิธีการที่หลากหลาย เช่น การจัดโปรโมชั่นในธีมสงกรานต์และการตลาดผ่านมือถือ ช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้น พร้อมสร้างความประทับใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นด้วยข้อมูลที่สามารถพิสูจน์ได้จริง

การวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ เป็นกุญแจสำคัญ เนื่องจากผู้บริโภคชาวไทยจำนวนมากมักค้นหาข้อมูลผ่านเสิร์ชเอนจินก่อนตัดสินใจซื้อ การติดตามและปรับปรุงแคมเปญตามข้อมูลจริงจะช่วยให้ธุรกิจตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด

"During these peak times, having an optimised e-commerce presence that integrates with mobile platforms can result in unprecedented sales growth. It's about understanding and leveraging consumer habits on these platforms." - ProfileTree's Digital Marketing Team

พฤติกรรมผู้บริโภคช่วงสงกรานต์ยังมีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน โดย 69% ของผู้บริโภควางแผนเพิ่มงบประมาณสำหรับซื้อวัตถุดิบคุณภาพดีเพื่อจัดปาร์ตี้ที่บ้าน ซึ่งชี้ให้เห็นว่าการปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับพฤติกรรมใหม่นี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขายได้

นอกจากนี้ การลงทุนของแบรนด์ใหญ่ในช่วงสงกรานต์ยังเป็นตัวชี้วัดที่น่าสนใจ เช่น Central Pattana ที่ทุ่มงบ 600 ล้านบาทเพื่อจัดกิจกรรมกว่า 1,000 รายการ โดยคาดว่าจะเพิ่มจำนวนผู้มาเยือน 10-15% หรือ The Mall Group ที่ลงทุน 300 ล้านบาทในแคมเปญ "Epic Summer-Cation" สำหรับธุรกิจ SME สิ่งนี้ยืนยันว่าการลงทุนโดยใช้ข้อมูลเป็นฐานสามารถเริ่มต้นได้ แม้จะมีงบประมาณจำกัด

สำหรับ SME ไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณมหาศาล เพียงแค่ใช้ข้อมูลอย่างชาญฉลาด เช่น การทดสอบ A/B กับข้อความและภาพโฆษณา รวมถึงการติดตามผลลัพธ์อย่างใกล้ชิด เพราะ ช่วงเวลาการใช้แอปในเทศกาลสงกรานต์เพิ่มขึ้นจาก 22.9 นาทีในปี 2022 เป็น 23.99 นาทีในปี 2023 ซึ่งหมายถึงโอกาสที่มากขึ้นในการเข้าถึงลูกค้า

การเตรียมความพร้อมล่วงหน้าและเลือกช่องทางที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายจะช่วยให้ธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาทองนี้ได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการสร้างเนื้อหาที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมและประเพณีไทยอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงแค่โฆษณาที่ดูผิวเผิน

ความสำเร็จในช่วงสงกรานต์เกิดจากการผสมผสานทุกกลยุทธ์ที่กล่าวมา พร้อมกับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องโดยอิงจากข้อมูลจริงและพฤติกรรมของผู้บริโภคในเวลานั้น

FAQs

ทำไมการจัดโปรโมชั่นช่วงสงกรานต์จึงช่วยเพิ่ม ROI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ?

การจัดโปรโมชั่นช่วงสงกรานต์: เคล็ดลับเพิ่ม ROI ให้ธุรกิจ

ช่วงสงกรานต์ถือเป็นหนึ่งในเทศกาลสำคัญของไทยที่ผู้บริโภคมักใช้จ่ายมากกว่าปกติ การใช้โปรโมชั่นที่เข้ากับบรรยากาศเทศกาล เช่น ส่วนลดพิเศษ, ของแถมสุดพิเศษ, หรือ แพ็กเกจราคาสุดคุ้ม สามารถช่วยดึงดูดความสนใจของลูกค้าและกระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ยิ่งไปกว่านั้น การเลือกช่องทางโฆษณาที่เหมาะสมก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โซเชียลมีเดียมักจะเป็นตัวเลือกที่ดีในช่วงเทศกาลนี้ เนื่องจากผู้คนใช้เวลากับแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น การสร้างข้อความที่แสดงถึงความสนุกสนานและความสุขในช่วงสงกรานต์ยังช่วยสร้างการเชื่อมโยงทางอารมณ์กับกลุ่มเป้าหมายได้ดี ส่งผลให้การเข้าถึงผู้บริโภคเพิ่มขึ้น และนำไปสู่ยอดขายและกำไรที่สูงขึ้นในที่สุด

การใช้ TikTok และ Google Ads ในช่วงสงกรานต์ช่วยเพิ่ม ROI ให้ธุรกิจได้อย่างไร?

การใช้ TikTok และ Google Ads ในช่วงสงกรานต์เพื่อเพิ่ม ROI

สงกรานต์เป็นช่วงเวลาทองสำหรับธุรกิจที่ต้องการเพิ่ม ROI และสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้า และเมื่อพูดถึงการตลาดออนไลน์ TikTok และ Google Ads เป็นสองแพลตฟอร์มที่สามารถช่วยให้ธุรกิจของคุณโดดเด่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ:

• เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ใช่
  TikTok เป็นช่องทางที่ยอดเยี่ยมสำหรับการดึงดูดความสนใจของคนรุ่นใหม่ที่ชอบเนื้อหาแบบสร้างสรรค์และสนุกสนาน ส่วน Google Ads ช่วยให้คุณเข้าถึงลูกค้าที่กำลังค้นหาสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องโดยตรง ช่วยเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้ง่ายขึ้น
• เพิ่มการมีส่วนร่วมและสร้างการรับรู้แบรนด์
  TikTok เปิดโอกาสให้แบรนด์สร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจและมีโอกาสกลายเป็นไวรัลสูง ซึ่งส่งผลให้แบรนด์ของคุณเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ในขณะเดียวกัน Google Ads ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีแนวโน้มจะซื้อจริง
• เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลที่ทรงพลัง
  ทั้ง TikTok และ Google Ads มีเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลที่ช่วยให้คุณติดตามผลลัพธ์ของแคมเปญได้แบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นยอดคลิก การมีส่วนร่วม หรือยอดขาย คุณสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อปรับกลยุทธ์ให้ตรงกับพฤติกรรมผู้บริโภคในช่วงสงกรานต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การผสมผสานระหว่าง TikTok และ Google Ads ในช่วงเทศกาลนี้จึงไม่เพียงช่วยเพิ่ม ROI แต่ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในระยะยาวกับลูกค้าของคุณอีกด้วย!

ธุรกิจ SME จะใช้ข้อมูลเชิงลึกปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดช่วงสงกรานต์ได้อย่างไร?

ธุรกิจ SME กับการใช้ข้อมูลเชิงลึกในช่วงสงกรานต์

ธุรกิจ SME สามารถใช้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดในช่วงสงกรานต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเริ่มจากการวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า เช่น ข้อมูลการเข้าชมเว็บไซต์, การซื้อสินค้า, หรือการมีส่วนร่วมบนโซเชียลมีเดีย เพื่อทำความเข้าใจความสนใจและความต้องการของกลุ่มเป้าหมายในช่วงเทศกาลนี้

การวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านี้ยังช่วยให้ธุรกิจปรับแคมเปญโฆษณาและโปรโมชั่นได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้ข้อความที่ดึงดูดใจ, การกำหนดราคาที่เหมาะสม, หรือการเลือกช่องทางโฆษณาที่กลุ่มเป้าหมายใช้งานบ่อยที่สุด ทั้งหมดนี้ช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) และกระตุ้นยอดขายให้สูงขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์