เจาะลึกการวิเคราะห์ ROAS และกลยุทธ์เบื้องหลังความสำเร็จของคู่แข่งในตลาดไทยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการโฆษณา.

ROAS Deep Dive: เจาะลึกธุรกิจคู่แข่งในตลาดไทย ด้วยเทคนิค Reverse Engineering
ROAS คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญ?
ROAS (Return on Ad Spend) คือการวัดผลตอบแทนจากการลงทุนในโฆษณา โดยใช้สูตร:
ROAS = (รายได้ ÷ ค่าใช้จ่าย) × 100
สรุปประเด็นสำคัญในบทความนี้:
-
มาตรฐาน ROAS สำหรับตลาดไทย:
- อัตราที่ดี: 4:1 (ลงทุน 1 บาท ควรได้รายได้ 4 บาท)
- ตัวอย่าง ROAS เฉลี่ยในแต่ละอุตสาหกรรม (ปี 2565):
- ยานยนต์: 1.93:1
- ความงาม: 3.01:1
- เสื้อผ้า: 3.92:1
- กีฬา: 4.98:1
-
วิเคราะห์คู่แข่งด้วยเครื่องมือฟรี:
- Meta Ads Library: ตรวจสอบโฆษณาบน Facebook/Instagram
- แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซไทย:
- Shopee (ผู้เข้าชม 114.8 ล้าน/เดือน)
- Lazada (39.94 ล้าน/เดือน)
- TikTok Shop
-
ขั้นตอนวิเคราะห์แคมเปญคู่แข่ง:
- ศึกษารูปแบบโฆษณา, หน้าแลนดิ้งเพจ, และกระบวนการขาย
- ใช้ข้อมูลเพื่อคำนวณ ROAS ของคู่แข่ง
-
การปรับกลยุทธ์:
- ออกแบบโฆษณาให้เหมาะกับคนไทย (ใช้ภาพ/วิดีโอที่ดึงดูด)
- ปรับปรุงหน้าแลนดิ้งเพจให้โหลดเร็วและใช้งานง่าย
- ใช้ข้อมูล ROAS เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ
เปรียบเทียบ ROAS ระหว่างอุตสาหกรรมในไทย (2565):
อุตสาหกรรม | ROAS เฉลี่ย |
---|---|
ยานยนต์ | 1.93:1 |
ความงามและของใช้ส่วนตัว | 3.01:1 |
เสื้อผ้าและเครื่องประดับ | 3.92:1 |
อิเล็กทรอนิกส์ | 3.93:1 |
กีฬาและกิจกรรมกลางแจ้ง | 4.98:1 |
อ่านต่อในบทความเพื่อเจาะลึกขั้นตอนและเทคนิคที่ช่วยเพิ่ม ROAS และเอาชนะคู่แข่งในตลาดไทยได้อย่างชัดเจน!
ROAS คืออะไร? สำคัญกับการทำโฆษณายังไง?
ขั้นตอนที่ 1: การค้นหาคู่แข่งหลักในประเทศไทย
การระบุคู่แข่งหลักในตลาดออนไลน์ถือเป็นหัวใจสำคัญของการวิเคราะห์ ROAS โดยเฉพาะในยุคที่ตลาดอีคอมเมิร์ซในไทยเติบโตขึ้นถึง 19% ต่อปี การวิเคราะห์นี้ควรครอบคลุมทั้งแพลตฟอร์มหลักและช่องทางการขายต่าง ๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกที่ครบถ้วน ต่อไปนี้คือวิธีการใช้เครื่องมือฟรีเพื่อค้นหาข้อมูลที่จำเป็น
ใช้ Meta Ads Library เพื่อการวิจัย
Meta Ads Library เป็นเครื่องมือฟรีที่ช่วยให้คุณสามารถค้นหาและตรวจสอบโฆษณาที่กำลังรันอยู่บน Facebook และ Instagram ได้ง่าย ๆ วิธีการใช้งานมีดังนี้:
-
ตั้งค่าการค้นหา
เลือกตำแหน่งเป็น "Thailand" เพื่อดูโฆษณาที่แสดงเฉพาะในประเทศไทย ใช้คำค้นหาในภาษาไทยและภาษาอังกฤษที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการของคุณ -
วิเคราะห์โฆษณา
สำรวจรูปแบบการนำเสนอ เนื้อหา และดีไซน์ของโฆษณาคู่แข่ง สังเกตแคมเปญที่รันอย่างต่อเนื่องและให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพ
การวิจัยนี้ช่วยให้คุณเข้าใจกลยุทธ์ของคู่แข่งในระดับโซเชียลมีเดียได้ดีขึ้น แต่ยังมีอีกมุมหนึ่งที่ควรพิจารณา คือการวิเคราะห์ผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในไทย
วิเคราะห์คู่แข่งบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซไทย
แพลตฟอร์ม | จำนวนผู้เข้าชมต่อเดือน | จำนวนดาวน์โหลดแอปต่อเดือน |
---|---|---|
Shopee TH | 114.8 ล้าน | 616,900 |
Lazada TH | 39.94 ล้าน | 754,000 |
TikTok Shop | ไม่ระบุ | 419,400 |
การวิจัยบนแพลตฟอร์มเหล่านี้ช่วยให้คุณเข้าใจกลยุทธ์ของคู่แข่งในเชิงลึก:
- Shopee: มองหาร้านค้าที่มียอดขายสูงในหมวดหมู่เดียวกับสินค้าของคุณ โดยพิจารณายอด "การขายสำเร็จ" และคะแนนรีวิวของร้านค้า
- Lazada: ศึกษากลยุทธ์ด้านการจัดส่ง เช่น การจัดส่งด่วนในวันเดียวกันหรือวันถัดไปในเขตเมือง รวมถึงโปรโมชันที่ดึงดูดลูกค้า
- TikTok Shop: ติดตามแบรนด์ที่มีการมีส่วนร่วมสูงในกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะแคมเปญที่เกี่ยวข้องกับสินค้าที่มียอด GMV สูง ซึ่งในปี 2566 TikTok Shop มีมูลค่ารวมถึง 16.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
การรวบรวมข้อมูลจากทั้ง Meta Ads Library และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเหล่านี้จะช่วยคุณวางแผนกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในตลาดออนไลน์ไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
ขั้นตอนที่ 2: วิเคราะห์แคมเปญของคู่แข่ง
การวิเคราะห์แคมเปญของคู่แข่งช่วยให้เข้าใจกลยุทธ์ที่ใช้ได้ผลในตลาดไทย ซึ่งเป็นตลาดที่ 89% ของผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าผ่านโซเชียลมีเดีย โดยการวิเคราะห์นี้ครอบคลุม 3 ส่วนหลัก: การออกแบบและข้อความโฆษณา, หน้าแลนดิ้งเพจ และกระบวนการขาย
การวิเคราะห์การออกแบบและข้อความโฆษณา
การพิจารณาองค์ประกอบสำคัญ เช่น รูปแบบการนำเสนอ, ช่วงเวลาโพสต์ และการมีส่วนร่วม เป็นหัวใจสำคัญในการตอบสนองพฤติกรรมของผู้บริโภคในไทย :
องค์ประกอบ | สิ่งที่ควรวิเคราะห์ | ความสำคัญต่อตลาดไทย |
---|---|---|
รูปแบบการนำเสนอ | การใช้ภาพ วิดีโอ และอนิเมชัน | คนไทยให้ความสำคัญกับภาพและวิดีโอที่ดึงดูดความสนใจ |
ช่วงเวลาและความถี่ | เวลาโพสต์และจำนวนครั้งต่อวัน | คนไทยใช้เวลาเฉลี่ยบนโซเชียลมีเดียประมาณ 2.5 ชั่วโมงต่อวัน |
การมีส่วนร่วม | ไลค์ แชร์ และคอมเมนต์ | แสดงถึงการตอบสนองของกลุ่มเป้าหมายต่อเนื้อหา |
หลังจากวิเคราะห์โฆษณาแล้ว ควรตรวจสอบต่อไปที่หน้าแลนดิ้งเพจ ซึ่งเป็นจุดแรกที่ผู้ใช้จะเข้าถึงหลังจากคลิกโฆษณา
การตรวจสอบหน้าแลนดิ้งเพจ
หน้าแลนดิ้งเพจที่เหมาะกับตลาดไทยควรออกแบบให้รองรับการใช้งานผ่านมือถือและโหลดได้เร็ว เพราะสมาร์ทโฟนเป็นอุปกรณ์หลักที่คนไทยใช้ในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต หากเพจโหลดช้าหรือใช้งานยาก อาจทำให้ผู้ใช้หลุดออกจากการซื้อได้ง่าย
การวิเคราะห์กระบวนการขาย
ในส่วนนี้ให้พิจารณาองค์ประกอบที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นและการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค:
- การสร้างความไว้วางใจ เช่น การแสดงรีวิว การรับประกันสินค้า และเครื่องหมายรับรองคุณภาพ
- การประเมินความสะดวกในการซื้อ เช่น จำนวนขั้นตอนในกระบวนการทำธุรกรรม
- การติดตามและดูแลลูกค้าหลังการขาย เพื่อสร้างความประทับใจและความภักดีต่อแบรนด์
นอกจากนี้ ไมโครอินฟลูเอนเซอร์กำลังมีบทบาทสำคัญในตลาดไทย เนื่องจากสามารถสร้างความน่าเชื่อถือและเชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างใกล้ชิด ข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์เหล่านี้จะเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการคำนวณ ROAS ของคู่แข่งในขั้นตอนถัดไป
ขั้นตอนที่ 3: การคำนวณ ROAS ของคู่แข่ง
หลังจากวิเคราะห์แคมเปญแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการคำนวณ ROAS (Return on Advertising Spend) ของคู่แข่ง เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ปรับปรุงกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับตลาดในประเทศไทย สูตรการคำนวณมีดังนี้:
ROAS = รายได้ทั้งหมดจากแคมเปญ ÷ ค่าใช้จ่ายในการโฆษณา
ค่า ROAS ที่ดีควรอยู่ที่ประมาณ 2:1 ซึ่งหมายความว่าการลงทุน 1 บาท ควรสร้างรายได้กลับมา 2 บาท การรู้ตัวเลขนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจต้นทุนและเปรียบเทียบมาตรฐานในอุตสาหกรรมได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ปัจจัยต้นทุนในตลาดไทย
เมื่อต้องประเมินต้นทุนของคู่แข่งในประเทศไทย มีหลายปัจจัยที่ควรพิจารณา:
- ค่าขนส่ง: ค่าใช้จ่ายอาจแตกต่างกันไปตามระยะทางหรือประเภทของสินค้า
- ค่าธรรมเนียมการชำระเงิน: วิธีการชำระเงินที่ต่างกัน เช่น การโอนผ่านธนาคาร หรือการใช้บัตรเครดิต อาจมีค่าธรรมเนียมที่ไม่เท่ากัน
- ความผันผวนของต้นทุนในช่วงเทศกาล: เช่น สงกรานต์หรือปีใหม่ ซึ่งอาจทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นชั่วคราว
ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้คุณประเมินต้นทุนได้แม่นยำยิ่งขึ้น และสามารถวางแผนได้สอดคล้องกับสถานการณ์ในตลาดไทย
มาตรฐาน ROAS ในแต่ละอุตสาหกรรม
นอกจากการคำนวณ ROAS เบื้องต้นแล้ว การเปรียบเทียบกับมาตรฐานในอุตสาหกรรมจะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมได้ชัดเจนยิ่งขึ้น:
"ROAS คือการคำนวณเปอร์เซ็นต์กำไรเทียบกับค่าใช้จ่ายในแคมเปญการตลาด กล่าวคือ เป็นวิธีคำนวณเงินที่ใช้จ่ายเทียบกับเงินที่ได้รับ"
– นิโคไล ลอนดัล, กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้ง IBEX Digital Agency
อุตสาหกรรม | ROAS จาก PPC/SEM | ROAS จาก SEO |
---|---|---|
อีคอมเมิร์ซ | 2.05 | 3.65 |
อสังหาริมทรัพย์ | 1.40 | 15.10 |
การศึกษา | 1.90 | 10.40 |
การเงิน | 1.05 | 11.10 |
จากข้อมูลในตารางจะเห็นว่า SEO มักให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า PPC/SEM ในหลายอุตสาหกรรม การทราบข้อมูลนี้ช่วยให้คุณปรับกลยุทธ์การลงทุนในโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ขั้นตอนที่ 4: การนำผลการวิจัยมาปรับปรุงผลลัพธ์
หลังจากที่เราได้ข้อมูลเชิงลึกจากการวิเคราะห์คู่แข่งแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการนำข้อมูลเหล่านั้นมาปรับใช้เพื่อยกระดับแคมเปญในตลาดไทยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
การออกแบบโฆษณาสำหรับตลาดไทย
การออกแบบโฆษณาให้เข้ากับวัฒนธรรมและความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยสร้างความเชื่อมโยงระหว่างแบรนด์และกลุ่มเป้าหมาย
ประเด็นสำคัญที่ควรพิจารณา:
- ปรับแต่งข้อความให้ตรงใจ: ใช้ภาษาที่เป็นกันเองและสอดคล้องกับวิถีชีวิตของผู้บริโภคชาวไทย
- เลือกโทนเสียงที่เหมาะสม: โทนเสียงควรสะท้อนถึงความทันสมัยและเข้ากับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย
ตัวอย่างที่น่าสนใจ: บริษัท Primal ได้ปรับกลยุทธ์จากการใช้ข้อความแบบ 'Engagement Message' เป็น 'Sale Message' ซึ่งช่วยเพิ่ม ROAS ได้ถึง 90%
ข้อมูลเหล่านี้สามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงประสิทธิภาพของแคมเปญได้อย่างตรงจุด
การปรับปรุงแคมเปญจากผลการวิจัย
ข้อมูลจากการวิเคราะห์คู่แข่งสามารถช่วยให้เราปรับปรุงแคมเปญได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอ้างอิงจากตัวชี้วัดสำคัญในแต่ละอุตสาหกรรม
หมวดหมู่ | CPC เฉลี่ย | อัตราการคลิก | อัตราการเปลี่ยนเป็นลูกค้า |
---|---|---|---|
อีคอมเมิร์ซ (สกินแคร์) | ฿10.50 | 5.00% | 3.00% |
อสังหาริมทรัพย์ | ฿14.91 | 3.50% | 2.00% |
การศึกษา | ฿12.20 | 4.00% | 2.00% |
แนวทางการปรับปรุงแคมเปญ:
- เปรียบเทียบ CPC ของคุณกับค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรม หากสูงเกินไป ควรพิจารณาปรับเป้าหมายหรือครีเอทีฟ
- ตรวจสอบและปรับปรุง หน้าแลนดิ้งเพจ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเปลี่ยนผู้เข้าชมเป็นลูกค้า
- วางแผน งบประมาณ และกลยุทธ์การประมูลโดยอ้างอิงจากข้อมูลอุตสาหกรรม
นอกจากนี้ ควรติดตามผลลัพธ์และปรับกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเกณฑ์มาตรฐานในแต่ละอุตสาหกรรมอาจเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล
sbb-itb-4ffe5b5
สรุปและขั้นตอนการปฏิบัติ
การวิเคราะห์คู่แข่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพ ROAS ในตลาดไทย และนี่คือขั้นตอนที่จะช่วยเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกให้กลายเป็นการปฏิบัติจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขั้นตอนการนำผลวิเคราะห์ไปใช้งาน
การวิเคราะห์ข้อมูลของคู่แข่งควรเน้นที่ 3 องค์ประกอบหลัก ซึ่งแต่ละองค์ประกอบมีเป้าหมายและตัวชี้วัดที่ชัดเจน:
องค์ประกอบ | เป้าหมาย | ตัวชี้วัดสำคัญ |
---|---|---|
กลยุทธ์การตลาด | เพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ | อัตราการมีส่วนร่วม |
การออกแบบหน้าแลนดิ้งเพจ | เพิ่มอัตราการเปลี่ยนเป็นลูกค้า | อัตราการเปลี่ยนเป็นลูกค้า |
กระบวนการขาย | ยกระดับประสบการณ์ลูกค้า | อัตราการปิดการขาย |
แนวทางการพัฒนาที่ควรให้ความสำคัญ
จากข้อมูลที่ได้วิเคราะห์ในขั้นตอนก่อนหน้านี้ คุณสามารถปรับกลยุทธ์เพื่อสร้างจุดเด่นและเพิ่มมูลค่าให้แบรนด์ของคุณผ่านแนวทางเหล่านี้:
- การกำหนดราคา: ตรวจสอบโครงสร้างราคาของคู่แข่งเพื่อหาจุดที่เหมาะสมสำหรับตำแหน่งทางการตลาดของคุณ
- การสื่อสารแบรนด์: พัฒนาเอกลักษณ์และข้อความที่ชัดเจนเพื่อสร้างความแตกต่าง
- การพัฒนาผลิตภัณฑ์: ใช้ความคิดเห็นจากลูกค้าเพื่อปรับปรุงสินค้าและบริการให้ตรงใจยิ่งขึ้น
ข้อมูลเหล่านี้สามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับแคมเปญของคุณได้อย่างตรงจุด
"การวิเคราะห์คู่แข่งคือกระบวนการเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง ช่วยให้องค์กรค้นพบจุดอ่อนและสร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนานวัตกรรม เพื่อก้าวนำในการแข่งขันทางการตลาด" – ALPHA Camp
อย่าลืมติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้กลยุทธ์ของคุณสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของตลาด นอกจากนี้ การใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลจะช่วยให้คุณเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคและแนวโน้มการขายได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น.
FAQs
เทคนิค Reverse Engineering ใช้ในการวิเคราะห์ ROAS ของคู่แข่งอย่างไร?
เทคนิค Reverse Engineering เพื่อวิเคราะห์ ROAS ของคู่แข่ง
Reverse Engineering เป็นวิธีการถอดรหัสและเจาะลึกเพื่อทำความเข้าใจว่าอะไรที่ทำให้แคมเปญโฆษณาของคู่แข่งประสบความสำเร็จ ซึ่งจุดที่ควรให้ความสำคัญมีดังนี้:
- ข้อความโฆษณา: ศึกษาว่าคู่แข่งใช้คำพูดหรือข้อความแบบไหนที่ดึงดูดใจกลุ่มเป้าหมาย
- กลยุทธ์เนื้อหา: วิเคราะห์วิธีการนำเสนอเนื้อหา เช่น การเล่าเรื่อง หรือการใช้ข้อมูลที่น่าสนใจ
- การออกแบบช่องทางการขาย: ดูว่าโครงสร้างช่องทางการขาย (Sales Funnel) ของพวกเขาเป็นอย่างไร
- ความคิดสร้างสรรค์ในการนำเสนอ: พิจารณาว่าสิ่งใดที่ทำให้โฆษณาของพวกเขาโดดเด่น เช่น การใช้ภาพหรือวิดีโอ
การวิเคราะห์เชิงลึกนี้ช่วยให้คุณสามารถค้นพบจุดแข็งของแคมเปญคู่แข่ง และนำข้อมูลที่ได้มาปรับใช้กับกลยุทธ์ของคุณเอง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการโฆษณาและผลตอบแทนการลงทุน (ROAS) ได้อย่างตรงจุดและคุ้มค่า.
ขั้นตอนการใช้ Meta Ads Library และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในไทยเพื่อวิเคราะห์กลยุทธ์คู่แข่งมีอะไรบ้าง?
การวิเคราะห์กลยุทธ์คู่แข่งด้วย Meta Ads Library และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในไทย
การศึกษากลยุทธ์ของคู่แข่งในตลาดไทยไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าคุณรู้วิธีใช้เครื่องมือที่เหมาะสม ลองทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
1. ใช้ Meta Ads Library
เริ่มต้นด้วยการเข้าไปที่ Meta Ads Library แล้วค้นหาชื่อเพจหรือแบรนด์ที่คุณสนใจ คุณจะสามารถดูโฆษณาที่กำลังรันอยู่ได้ทันที พร้อมทั้งข้อมูลสำคัญ เช่น
- รูปแบบโฆษณา
- ข้อความที่ใช้
ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณเข้าใจแนวทางการสื่อสารและกลยุทธ์การตลาดของคู่แข่งในเชิงลึกมากขึ้น
2. สำรวจแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในไทย
เข้าไปดูหน้าร้านค้าหรือสินค้าของคู่แข่งบนแพลตฟอร์มยอดนิยมในไทย เช่น Lazada หรือ Shopee โดยเน้นการวิเคราะห์ในส่วนต่อไปนี้:
- การตั้งราคาสินค้า
- โปรโมชั่นที่ใช้
- รีวิวจากลูกค้า
ข้อมูลเหล่านี้สามารถช่วยให้คุณมองเห็นจุดแข็งและจุดอ่อนของคู่แข่งได้อย่างชัดเจน
นำข้อมูลมาพัฒนาแผนของคุณ
เมื่อคุณรวบรวมข้อมูลจากทั้ง Meta Ads Library และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซแล้ว คุณสามารถนำมาปรับใช้กับกลยุทธ์ของตัวเองได้ เช่น
- ออกแบบโฆษณาให้โดดเด่น
- ตั้งราคาสินค้าให้เหมาะสม
- วางแผนโปรโมชั่นที่น่าสนใจ
การปรับเปลี่ยนเหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจของคุณตอบโจทย์ตลาดไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น!
การวิเคราะห์ ROAS ของคู่แข่งช่วยให้ธุรกิจปรับกลยุทธ์การตลาดได้อย่างไร?
การวิเคราะห์ ROAS (Return on Ad Spend) ของคู่แข่ง
การทำความเข้าใจว่า คู่แข่งจัดสรรงบโฆษณา และได้รับผลตอบแทนอย่างไร ถือเป็นข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้คุณสามารถเปรียบเทียบประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณาของตัวเองกับตลาดโดยรวมได้อย่างแม่นยำ
เมื่อคุณศึกษาแคมเปญของคู่แข่งอย่างละเอียด คุณจะมองเห็นทั้ง จุดแข็ง และ จุดอ่อน ของพวกเขา ซึ่งช่วยให้คุณสามารถปรับปรุงกลยุทธ์ของตัวเองได้ในหลายด้าน เช่น:
- การเลือกช่องทางการโฆษณาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับกลุ่มเป้าหมาย
- การตั้งงบประมาณโฆษณาให้คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ
- การออกแบบข้อความโฆษณาที่ดึงดูดและสร้างความแตกต่างในตลาด
การปรับกลยุทธ์เหล่านี้ไม่เพียงช่วยเพิ่ม ROAS ของคุณ แต่ยังช่วยให้ธุรกิจของคุณแข็งแกร่งขึ้นในตลาดไทยที่มีการแข่งขันสูงอีกด้วย!
